วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555

เมืองไทยไม่ใช่เมืองนอก

สวัสดีครับท่านผู้อ่านหลังจากห่างหายการเขียน Blog ไปนานแสนนาน หวังว่าหลายๆท่านคงสบายดี
และยังคิดถึงกันบ้าง วันนี้เป็นเรื่องที่ผมเคยจ้ออยู่เป็นประจำใน Facebook กับสังคมนักเต้นเมืองไทย
จริงๆก็ไม่ใช่แค่นักเต้นอย่างเดียว จะ้เรียกว่าสังคมไทยเลยก็ได้ครับเพราะ "เมืองไทยไม่ใช่เมืองนอก"



ประชากรไทยเป็นพวกอนุรักษ์นิยมทางด้านความคิด เมื่อคนรุ่นก่อนบอกอย่างไรเราก็มักจะเชื่อแบบนั้น
ตามๆกันมา แต่ทว่าบางความคิดก็ไม่ได้ดีเสมอไป มันฝังอยู่ในหัวเราตั้งแต่เด็กๆ ฝังผ่านๆแต่ก็อยู่ใน
สมอง ความเชื่อต่างๆที่ว่ามันถูกก็เยอะผิดก็แยะ ถ้าเราไม่มีความคิดหน่อยก็ดิ่งลงเหวไปเลย ถ้าคิดได้
มันก็สามารถเอามาใช้กับชีวิตเราได้จริงๆ แต่เราถูกปลูกมาให้เป็นผู้ตาม อ่อนน้อมถ่อมตน
ขี้เกรงอกเกรงใจ ไม่พูดในสิ่งที่ควรพูด ยอมๆกันหยวนๆกัน ไม่เด็ดขาด จนศูนย์เสียบางอย่างที่สำคัญ
กับชีวิตตัวเองไป เพราะคุณมองสิ่งที่คนในสังคมเราทำอย่างเดียวไม่เคยมองออกไปนอกหน้าต่าง
ข้างบ้านบ้างเพราะเราเชื่อเสมอว่า ไทยนี้คือสุดยอดดีที่สุด The Best แล้ว !   


เมื่อคุณเีิ่ริ่มทำสิ่งที่แตกต่างจากในสังคม มันจะเริ่มมีแรงกดดันเงียบๆที่พยายามทำให้คุณล้มเลิก ทำสิ่ง
เหล่านั้น "อย่าทำเลย ทำไปก็ไม่ได้อะไร"   "ไม่กลัวหรอ มีคนทำมาแล้วเจ๊งมาหลายรายแล้ว"
" พูดอะไรของนายวะ เพ้อเจ้อจริงๆจริงเลย" คำพูดพวกนี้มาจากคนรอบข้างเรานี่เองไม่ว่าจะเป็นใครก็
ตามที่เขาคิดต่างกับเรา เพราะเขาไม่กล้าคิดสิ่งที่เราคิดเราเลยโดนค้านตลอด มันทำให้คุณสามารถ
หมดกำลังใจและล้มเลิกสิ่งที่คุณกำลังทำไปได้อย่างง่ายดาย



และในวันนั้นเองวันที่คุณทำสิ่งที่เขาคัดค้านสำเร็จ ! 



"โหว หมอนั่นน่ะเป็นเพื่อนฉันมันโชคดีมาก มันถึงมีทุกวันนี้" 

"ไอ้คนนี้อะหรอ มันมีเส้นสายดีรู้จักผู้ใหญ่รู้จักคนดังๆมันถึงมีทุกวันนี้" 

"โอยยย หมอนั่นแต่ก่อนมันเป็นลูกน้องฉัน ถ้าไม่ได้ฉันนะมันไม่มีวันนี้หรอก" 

"นายจะไปเอาอะไร มันเป็นลูกคนมีเงินใช้เงินก็จบแล้ว" 




เคยได้ยินอะไรแบบนี้ผ่านหูคุณบ้างมั้ยครับ ? 


นี่คือความจริงของสังคมไทยในปัจจุบัน เมื่อคุณทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้มันจะมีเสียงด่า
และเสียงสรรเสริญ (มาบ้าง) เพราะคนเราลึกๆมักจะไม่เชื่อว่าตัวเองทำสิ่งเหล่านี้ได้ เพราะมัวแต่กลัว
มัวแต่ไม่กล้า เอาแต่ดูถูกตัวเองว่าไม่เก่ง ไม่รวย ไม่มีชื่อเสียง มัวแต่คิด ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย ไม่
ได้เริ่มทำอะไรจริงๆจังๆซะที แล้วก็พอเห็นคนอื่นได้ดีก็เอาความคิดบูดๆที่ตนเองสะสมไว้ พ่นออกมา
เพื่อเป็นเกราะป้องกันตัวเองจากความกลัวที่ตัวเองมี นั่นแหละครับคือสาระสำคัญ !


เมื่อคุณได้รับการยอมรับจากต่างประเทศจากคนในวงการสาขาเดียวกันที่อยู่ในระดับเดียวกับคุณ
แล้วในทางกลับกัีนคุณมักจะไม่ได้รับการยอมรับจากภายในประเทศของตัวเองดีนัก เป็นเรื่องน่าเศร้า
ที่คนไทยมีคนมีความสามารถ เก่งๆมากมายหลายอย่าง ไม่เคยได้รับการส่งเสริมจากคนในประเทศ
ของตนเองเลยถึงจะมีก็เป็นคนส่วนน้อยที่จะรู้ว่าคุณเก่ง คุณทำอะไรอยู่ เพราะความคิดบูดๆ ความเชื่อ
ที่ขึ้นราแล้ว(บางเรื่อง)ของสังคมเราทำให้เรากลัวที่จะคิดสร้างสรรค์ หรือ ทำสิ่งใหม่ๆ จากความกลัวนี้
มันกลายมาเป็นปมด้อยที่ทำให้คนในสังคมนี้ไม่กล้าทำอะไร บางคนแย่หน่อยก็เกลียดและแบนไปเลย
ฝังตัวเองกับความเชื่อเก่าๆที่ตัวเองไม่ได้คิดขึ้นมา ยิ่งมองก็ยิ่งน่าเศร้าครับ ..



ความแตกต่างไม่ใช่เรื่องไม่ดี เป็นเรื่องที่ควรเอาเยี่ยงอย่าง จงแตกต่างอย่างฉลาดแม้แรกๆสังคมจะ
ไม่เข้าใจคุณคุณอาจจะต้องใช้เวลาหน่อย แต่อย่างน้อยคุณก็รู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ เพราะคุณรักมัน
และศึกษาหาความรู้ ฝึกฝนมันอย่างจริงจัง ยังไงผมก็เชื่อว่ามีคนที่นิยมชมชอบคุณอยู่ แม้จะเป็นกลุ่ม
เล็กๆแต่เขาสามารถเข้าใจในสิ่งที่คุณเป็นได้มากที่สุด ต่อไปคนเหล่านี้แหละจะเป็นพลังผลักดันให้สิ่ง
ที่คุณทำ สิ่งที่คุณเป็น มีความแข็งแรงมากขึ้นและมันก็จะทำให้สิ่งที่คุณทำเป็นที่ยอมรับในที่สุด !


PS ; ถ้าเป็นเมืองนอกน่ะหรอสิ่งที่คุณทำอยู่อาจจะง่ายกว่าที่เป็นอยู่นี้ก็ได้ แต่ก็แล้วแต่สังคมนะครับ




+++อย่าลืมว่าคุณอยู่เมืองไทยอะไรๆมันอาจจะไม่ง่าย แต่อย่าไปกลัวครับเพราะเราไม่ใช่คนขี้ขลาดพวกนั้น +++



 






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น